ปลาเป็นอาหารที่มีสารอาหารประเภทโปรตีนสูง แต่ไขมันต่ํา หาซื้อได้ง่ายในบ้านเรา
การแยกประเภทปลา แยกง่ายๆ คือ ปลาน้ําจืด ปลาทะเล
ปลาเป็นที่นิยมในผู้ที่ต้องการควบคุมน้ําหนัก และรักสุขภาพ
ซึ่งการแยกปลาไม่เพียงจะแยกตามแหล่งของปลา หรือแยกตามปริมาณไขมันในปลาแต่ละชนิด
ซึ่งไขมันนี่เองที่ทําให้รสชาติของปลาแตกต่างกันไป
ปลาที่ไม่มีไขมัน หรือมีไขมันน้อย
มีไขมันต่ํากว่า 2% เนื้อปลาพวกนี้จะมีสีขาว เช่น ปลากะพง ปลาจาละเม็ด ปลาสําลีปลาเนื้ออ่อน
ปลากราย ฯลฯ
ปลาไขมันปานกลาง
มีไขมันตั้งแต่ 2-5% เช่น ปลาอินทรีปลาตะเพียน ปลาดุก ฯลฯ
ปลาไขมันสูง
มีไขมันมากกว่า 5% ส่วนมากจะมีเนื้อสีเหลือง ชมพูหรือเทาอ่อน เช่น ปลาเทโพ ปลาสวาย ปลาไหลทะเล
เป็นต้น
ปลามีโปรตีนใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์อื่น แต่เป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันในปลา นอกจากจะต่ํา
เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์ประเภทอื่นแล้ว ยังเป็นไขมันที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งไม่สะสมในหลอดเลือด
จนทําให้หลอดเลือดเกิดการตีบตัน และยังช่วยไล่ไขมันเลว ไม่ให้มาเกาะตามผนังหลอดเลือดอีกด้วย
นอกจากนี้ปลายังมีวิตามินสูง โดยเฉพาะเอ บี1 บี2 บี6 และดีปลาจึงเหมาะกับผู้สูงอายุเด็ก
ผู้มีความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจ
การเลือกซื้อปลา
เหงือกมีสีสด ตาปลาต้องใส เกล็ดและหนังไม่ขุ่น เนื้อแน่น เมื่อกดดูไม่บุ๋มตามรอยนิ้วมือ เนื้อไม่แข็งทื่อ
ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่าเหงือกมีสีสด
วิธีการล้างปลาสดให้หมดเมือกและกลิ่นคาว
– ล้างน้ําเปล่าธรรมดา แต่เน้นที่ความแรงของน้ํา
– ล้างด้วยน้ําผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ แล้วตามด้วยน้ําสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
– ล้างด้วยการนํามะนาวฝานเป็นชิ้นมาถูที่เนื้อปลา แล้วตามด้วยน้ําสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
– ล้างด้วยน้ําส้มมะขามเปียก แล้วตามด้วยน้ําสะอาดอีกครั้งหนึ่ง
การเก็บรักษาปลา
ควรทําความสะอาดปลาก่อน กล่าวคือ ต้องขอดเกล็ดออกให้หมด ถ้าไม่มีเกล็ดต้องขูดเมือกออก
ดึงเหงือกและควักไส้ออก ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้น ใส่กล่องพลาสติก ปิดฝา นําเข้าช่องแช่แข็ง
ที่มา : foodietaste.com
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Twitter
Pinterest
Google+
YouTube
RSS