“พริกหวาน” เป็นพริกที่มีสีสันสวยงาม มีรสชาติหวานและไม่เผ็ด สามารถนำมาทำอาหารได้หลากลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น สลัด , นำมาผัดกับผักชนิดอื่นๆ หรือนำมาใช้กับเนื้อสัตว์ ยัดไส้เนื้อหมู ชุบแป้งทอด หรือนำไปอบหรือนึ่งก็ได้ ถือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ เด็กก็ทานได้ ผู้ใหญ่ก็ทานดีค่ะ
ประโยชน์และสรรพคุณของพริกหวาน
- พริกหวานอุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียมสูง ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีวิตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า
- พริกหวานมีสารต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของการการเกิดโรคมะเร็งได้
- สาร Capsaisin สามารถช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระได้ จึงช่วยลดความของการเกิดโรคหลอดเลือด และโรคต้อกระจก
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย และช่วยทำให้เจริญอาหาร
- สาร Capsaisin จะช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมน้ำลาย
- เมื่อร่างกายได้รับสาร Capsaisin ร่างกายจะสร้างสาร Endorphins ที่ช่วยในการผ่อนคลายความเครียด
- พริกหวานสามารถช่วยลดความดันโลหิตได้ เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัวและช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นได้ด้วยดี
- พริกหยวกมีสรรพคุณช่วยแก้อาเจียน ช่วยขับเหงื่อ ขับเสมหะ และช่วยขับลม
- ช่วยกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยแก้หิด และกลากเกลื้อน
วันนี้จึงขอนำเสนอเมนูง่ายๆ อย่าง “ตับผัดพริกหวาน” ที่มีประโยชนต์ต่อสุขภาพ
แถมยังช่วยบำรุงธาตุ และเสริมสร้างการสร้างเม็ดเลือดได้ด้วยนะคะ
วัตถุดิบ
- ตับหมูสด 200 กรัม
- พริกหวานทั้งสามสี 300-400 กรัม
- หอมหัวใหญ่ครึ่งลูก
- กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล ½ ช้อนชา
- น้ำสะอาด
วิธีทำ
- นำตับหมูมาสไลด์เป็นแผ่นประมาณครึ่งเซนติเมตร
- หั่นหอมหัวใหญ่ และพริกหวานเป็นทางยาว
- ตั้งน้ำมันบนกระทะด้วยไฟกลาง
- ใส่กระเทียมสับลงไป
- จากนั้นตามด้วยตับ โดยไม่ต้องผัดนาน เพราะหากผัดนานเกินไปตับจะสุกมาก ทำให้แข็ง ไม่อร่อย
- ตามด้วยหอมหัวใหญ่ที่หั่นไว้แล้ว
- และพริกหวานทั้ง 3 สี จากนั้นผัดให้เข้ากันด้วยไปแรง
- ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว น้ำมันหอย และน้ำตาล
- เติมน้ำเปล่าเพื่อให้ผัดมีน้ำขลุกขลิก
- เมื่อผัดทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว ก็ตักใส่จาน เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ปล. ระวังว่าอย่าผัดนานจนเกินไป เพราะตับเป็นวัตถุดิบที่สุกเร็ว และถ้าสุกจนเกินไป ตับจะแข็ง และไม่อร่อยค่ะ
ติดตามข้อมูลเกี่ยวกับอาหารได้ที่
Website : http://candidcookclick.com/
Facebook : https://www.facebook.com/candidcookclick
Youtube : https://www.youtube.com/channel/UCnmFBpHCDxw0dhNld0i5WSA
Comments
Powered by Facebook Comments
Facebook
Twitter
Pinterest
Google+
YouTube
RSS