สมุนไพร เครื่องเทศ ผัก ผลไม้ Herbs, spices, fruits and vegetables

กระเจี๊ยบมอญ Ladies’ Finger

สมุนไพร เครื่องเทศ ผัก ผลไม้ Herbs, spices, fruits and vegetables

Nobody has Wisdom if he does not know the Dark. ไม่มีใครฉลาดโดยปราศจากการได้รู้จักความโง่เขลามาก่อน Savecyber นัก SEO นักการตลาดออนไลน์ เว็บมาสเตอร์ หลายเว็บไซต์ เรียนรู้ที่จะสร้างประสบการณ์ไปด้วยกัน Webmaster, SEO specialist and Online Marketing

ชื่อสามัญ:               Ladies’ Finger, Lady’s Finger, Okraชื่อพื้นเมือง:             กระเจี๊ยบ กระเจี๊ยบมอญ มะเขือทวาย มะเขือมอญ (ภาคกลาง),มะเขือพม่า มะเขือมื่น มะเขือละโว้ (ภาคเหนือ/ลำปาง)

ชื่อพฤกษศาสตร์:      Abelmoschus esculetus (L.) Moench., Hibiscus esculentus L.

ชื่อวงศ์:                  MALVACEAE

ลักษณะ : ไม้ล้มลุก สูง 0.5-2 ม. มีขนทั่วไป ใบเดี่ยว เรียงสลับรูปไข่หรือค่อนข้างกลม กว้าง 10-30 ซม. ปลายหยักแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ เส้นใบออกจากโคนใบ 3-7 เส้น ดอกใหญ่ ออกเดี่ยวตามง่ามใบ มีริ้วประดับ เป็นเส้นสีเขียว 8-10 เส้น เรียงเป็นวงรอบโคนกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยง 5 กลีบ กลีบดอก 5 กลีบ สีเหลือง โคนกลีบสีม่วงแดง รูปไข่กลับหรือค่อนข้างกลม เกสรเพศผู้มีจำนวนมาก ก้านชูอับเรณูติดกันเป็นหลอดยาว 2-3 ซม. หุ้มเกสรเพศเมียไว้ อับเรณูเล็กจำนวนมากติดรอบหลอด ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ปลายแยกเป็น 5 แฉก ยอดเกสรเพศเมียเป็นแผ่นกลมขนาดเล็ก สีม่วงแดง ยื่นพ้นปากหลอดดอก ผลเป็นฝักห้าเหลี่ยม ปลายเรียวแหลม มีขนทั่วไป มีเมล็ดมาก เมล็ดรูปไต ขนาด 3-6 มม.
ประโยชน์ : ฝักอ่อน มีคุณค่าทางอาหารสูง กินได้ ในต่างประเทศบรรจุเป็นอาหารกระป๋องหรืออาหารแช่แข็ง

เมล็ดแก่ มีน้ำมันมาก กากเมล็ดมีโปรตีนเหมาะสำหรับใช้เลี้ยงสัตว์

เส้นใย จากต้นใช้ทำเชือกและกระดาษ นอกจากนี้โรงงานผลิตน้ำตาลบางแห่งในอินเดียยังนำเมือกจากต้นมาใช้ในกระบวนการทำให้น้ำอ้อยสะอาด

สำหรับการใช้ประโยชน์ทางยาแผนโบราณของจีน ราก เมล็ด และดอกใช้เป็นยาขับปัสสาวะ

ประโยชน์ทางยา ผลอ่อน ใช้เป็นผักจิ้มประกอบด้วยสารอาหารหลายชนิด เช่น คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินซี และไนอาซิน
– มีสารเมือกและ เพคติน ใช้แก้โรคกระเพาะอาหาร โดยนำผลแห้งมาป่นเป็นผงละเอียดชงกับน้ำร้อน รับประทาน เป็นยาหล่อลื่นในโรคโกโนเรียระงับพิษ
ขับปัสสาวะ
– แก้พยาธิตัวจิ๊ด โดยเอาผลกระเจี๊ยบมอญที่ยังอ่อนมาปรุงเป็นอาหารกิน เช่น ต้มหรือย่างไฟให้สุก จิ้มกับน้ำพริกหรือทำแกงส้ม กินวันละ ๓ เวลาทุกวัน วันละ ๔ – ๕ ผล ติดต่อกันอย่างน้อย ๑๕ วัน

กลีบเลี้ยง มีสารแอนโทไซยานิน และกรดอินทรีย์ ได้แก่ กรดแอสคอบิก (วิตามินซี) กรดซีตริก กรดมาลิก และกรดทาทาริก ทำให้มีสเปรี้ยว นอกจากนี้ มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม วิตามินเอ และเพคติน กลีบเลี้ยง ปรุงเป็นเครื่องดื่ม ผลไม้กวน และแยม

มีข้อห้าม เวลาต้มต้องให้สุกจริงๆ ถ้าไม่สุกจะเหม็นเขียว กินแล้วจะเป็นอันตรายเกิดการเบื่อเมาได้

อาหารเพื่อสุขภาพ

Comments

comments

Powered by Facebook Comments

More in สมุนไพร เครื่องเทศ ผัก ผลไม้ Herbs, spices, fruits and vegetables

ถั่วฝักยาว

ถั่วฟักยาว Yard long Bean

savecyberกรกฎาคม 10, 2015
ถั่วพลู Winged Bean

ถั่วพลู Winged Bean

savecyberกรกฎาคม 9, 2015